มาจัดการรหัสผ่านของคุณให้ปลอดภัยกันเถอะ ( Password Management )

Password Management System

วันนี้เราจะมาจัดการรหัสผ่าน (Password Management) ที่มีเยอะแยะและไม่ซ้ำกัน ที่จัดการยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายกันครับ

ผู้ใช้งานโดยทั่วไปก็มักจะมี Password กันอย่างๆ น้อย 2 – 3 ชุด เช่น ระบบอีเมลส่วนตัว, อีเมลองค์กร, ระบบ Web ต่างๆ

(อย่างพันทิพย์) หรือว่า Social Media ต่างๆ เช่น Facebook หรือ Twitter เป็นต้น หลายๆ คนใช้ Password เดียวกันซ้ำๆ ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่เป็นวิธีที่แนะนำซักเท่าไหร่นะครับ แถมบางองค์กรยังมีนโยบายให้เปลี่ยน Password กันเรื่อยๆ ด้วย แล้วใครบ้างจะไปจำได้หมด ดังนั้น วันนี้ผมจะมาต่อยอดแนะนำ Tools ดีๆ สำหรับคนที่มี Password หลายๆ ระบบกันนะครับ โดยเฉพาะ ชาว IT มักจะมีมากกว่าคนธรรมดาซัก 2 – 3 เท่ากันเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้ผมจะมาแนะนำ Tools และ Combination ดีๆ ที่ทำให้คุณสามารถจัดการรหัสผ่าน (Password Management) ได้อย่างปลอดภัยครับ

Password Management

1. Lasspass

บริการจัดการรหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้ดี สามารถใช้ได้ทั้งแบบฟรีและพรีเมียม โดยแบบฟรีนั้นก็มีฟีเจอร์ครอบคลุมสำหรับการจัดการรหัสผ่าน เก็บรหัสผ่านของบัญชีไม่จำกัดจำนวนเว็บไซต์ไว้ในที่เดียว พร้อมช่วยแนะนำการตั้งรหัสผ่านที่เดายาก เข้าถึงได้ด้วยรหัสผ่านหลักอันเดียวจากหลายอุปกรณ์เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต กรอกรหัสผ่านให้อัตโนมัติได้ โดยมันจะปฏิเสธการกรอกรหัสผ่านอัตโนมัติกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าไว้ใจ และสามารถ Export ข้อมูลรหัสผ่านออกมาได้กรณีที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้บริการอื่น ๆ สำหรับผู้ใช้แบบพรีเมียมก็จะมีฟีเจอร์เพิ่มเติมมา เช่น การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้น, พื้นที่เก็บไฟล์บน Cloud แบบเข้ารหัส หรือตั้งให้คนไว้ใจเข้าถึงรหัสผ่านในยามฉุกเฉินแทนได้

 

 

 

2.Dashlane

 
บริการจัดการรหัสผ่านที่ถือว่าเป็นคู่แข่งกับ LassPass เพราะมีฟีเจอร์คล้าย ๆ กัน ทั้งการช่วยตั้งรหัสผ่านและการกรอกรหัสผ่านให้อัตโนมัติ สะดวก ใช้งานง่าย เข้าถึงได้จากหลายอุปกรณ์ แถมยังมีฟีเจอร์กระเป๋าเงินดิจิทัลอีกด้วย โดยจะมีทั้งเวอร์ชั่นฟรีและพรีเมียม ซึ่งแบบพรีเมียมจะมีฟีเจอร์ขั้นสูงเสิรมเข้ามาให้ใช้งานเพิ่มเติม อย่างเช่นสามารถแชร์และ Sync ได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ แต่ความจริงถึงแม้จะใช้งานแบบฟรีก็มีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ครบถ้วนอยู่แล้ว
 
 
 
 
 
 

3. Loboform

 
อีกหนึ่งบริการจัดการรหัสผ่านฟรีที่ใช้ได้ดีที่สุด สามารถเก็บรหัสผ่านได้ไม่จำกัดจำนวน เข้าถึงได้หลายอุปกรณ์ ใช้เก็บโน้ตต่าง ๆ แบบเข้ารหัสได้ รวมทั้งฟีเจอร์การเข้าถึงรหัสผ่านแบบฉุกเฉิน นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ช่วยตั้งรหัสผ่านที่เดายากและแสนปลอดภัย พร้อมทั้งสามารถจ่ายเงินเป็นสมาชิกแบบพรีเมียมเพื่อใช้ฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ ได้ และสามารถสมัครเป็นแพ็กเพจแบบครอบครัวแบ่งกันใช้ได้สูงสุด 5 คนได้ด้วยเช่นกัน
 
 
 
 
 
 

4. KeePass Password Safe

 
ถึงแม้หน้าตาจะดูเชย ๆ ไปเสียหน่อยแต่ก็สามารถใช้งานได้ดีเลยทีเดียว เหมาะสำหรับคนเน้นใช้งานบนคอมพิวเตอร์ สามารถใส่ USB ไปเปิดกับเครื่องไหนก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเว็บไซต์หรือติดตั้งโปรแกรม มีระบบช่วยตั้งรหัสผ่านที่เดายากให้อัตโนมัติ รองรับผู้ใช้หลายคนได้ในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว แถมยังสามารถติดตั้ง Plugins เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้เองอีกด้วย และที่สำคัญคือฟรีไม่เสียเงิน
 
 
 
 
 
 

5. Sticky Password

 
บริการจัดการรหัสผ่านจากทีมงานเบื้องหลังของ AVG Antivirus จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย เลือกใช้ได้ทั้งแบบฟรีและพรีเมียม โดยแบบพรีเมียมจะสามารถ Sync และ Backup รหัสผ่านไว้บน Cloud ได้ มีทั้งแบบจ่ายรายปีและแบบตลอดชีพ ส่วนแบบฟรีก็มีฟีเจอร์ต่าง ๆ ครบครัน ทั้งการช่วยตั้งรหัสผ่านที่เดายาก ใช้ได้หลากหลายอุปกรณ์ มีระบบยืนยันตัวตน 2 ขั้น แถมยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนมือถืออีกด้วย สามารถ Sync ผ่าน Wi-Fi ได้ และมีเวอร์ชั่นสำหรับใส่ USB ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีแบบ Extension สำหรับเว็บเบราว์เซอร์อีกด้วยเช่นกัน 
 
 
ขอบคุณแหล่งที่มา : Kapook

คุณสมบัติการจัดการรหัสผ่านขั้นสูง

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ดูแลงานการจัดการรหัสผ่านขั้นพื้นฐานแม้มีความแตกต่างของผลิตภัณฑ์บ้าง แต่คุณสมบัติขั้นสูงนั้นประโยชน์ไม่แพ้กัน เรื่องหนึ่งเลยคือการจัดการรหัสผ่านสำหรับแอปพลิเคชันไม่ใช่แค่เฉพาะเว็บไซต์ แต่มันคือการเลือกเบราว์เซอร์ที่ปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องธุรกรรมทางออนไลน์ ที่มีความปลอดภัยและเรียกใช้ได้สะดวกเมื่อคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน มันจะเป็นผลดีต่อกระบวนการเปลี่ยนรหัสผ่านโดยอัตโนมัติซึ่งถือเป็นข้อดีอย่างมาก

ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นผลิตภัณฑ์ชั้นนำเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถซิงค์รหัสผ่านของคุณในอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ บางส่วนยังมีกลไกในตัว สำหรับการแชร์รหัสผ่านอย่างปลอดภัยกับผู้ใช้รายอื่นๆ ซึ่งบางคนให้คุณแชร์การเข้าสู่ระบบโดยไม่เปิดเผยรหัสผ่าน ในขณะที่บางคนให้คุณปิดกั้นการแชร์ และด้วยการแชร์ทั้งสองแบบนี้ กล่าวคือถ้าผู้รับการแชร์นั้นทำการเปลี่ยนแปลงมันจะเปลี่ยนต้นฉบับไปด้วย

การเข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ปลอดภัยไปยังเว็บไซต์ที่ไม่ได้ใช้การเชื่อมต่อ HTTPS ที่ปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ผู้จัดการรหัสผ่านบางคนอาจเตือนคุณเกี่ยวกับหน้าเข้าสู่ระบบที่ไม่ปลอดภัย แม้ว่าคุณจะใช้ HTTPS ยังสามารถเรียนรู้บางอย่างเกี่ยวกับกิจกรรมของคุณเช่นความจริงง่ายๆที่คุณเข้าสู่เว็บไซต์ที่ปลอดภัยและที่อยู่ IP ที่คุณเชื่อมต่อ ใช้การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยผ่านเครือข่ายส่วนตัวเสมือนหรือบริการ VPN ได้เพิ่มระดับการป้องกันเพิ่มเติม ตอนนี้ Dashlane มี VPN ในตัวง่ายและ RememBear มาจากแหล่งเดียวกันกับ TunnelBear VPN ที่ได้รับการยอมรับอย่างดี

Related Articles